มีขั้นตอนการทำดังนี้
การสร้างรายงานด้วยตัววิเศษ
1.เลือกแท็บ Reports 2.คลิกที่ New
3.เลือก Report Wizard
4.เลือกตารางหรือคิวรี
5.คลิกที่ OK
6.เลือกฟิล์ดที่ต้องการ
7.คลิกที่ Next
8.คลิก Finsh9.ลักษณะของรายงาน
ที่ได้ดังภาพ
การสร้างรายงานด้วยตัววิเศษ
1.เลือกแท็บ Reports 2.คลิกที่ New
3.เลือก Report Wizard
4.เลือกตารางหรือคิวรี
5.คลิกที่ OK
6.เลือกฟิล์ดที่ต้องการ
7.คลิกที่ Next
8.คลิก Finsh9.ลักษณะของรายงาน
ที่ได้ดังภาพ
3.เปลี่ยนมุมมองไปที่ตาราง
สืบหาลำดับที่ของนักเรียนที่ต้องการ
3.เปลี่ยนมุมมองไปที่ตาราง
สืบค้นหาที่อยู่ที่ต้องการ
3.สวิตซ์ไปที่ตาราง
1. เปิดเมนู File แล้วเลือก Save หลังจากนั้นจะปรากฎไดอะล็อกบ็อกช์ Save As
2. ตั้งชื่อคิวรี
3. คลิก OK
โอเปอเรเตอร์ทางคณิตศาสตร์การใช้โอเปอเรเตอร์ในคิวรี
ในการกำหนดคิวรีข้อมูลหรือสืบค้นข้อมูล จำเป็นที่จะต้องกำหนดความต้องการในไปให้ชัดเจนเพื่อได้มาซึ่งข้อมูลที่มีความหมายตรงต่อความต้องการ การใช้ Operator ช่วยในการสืบจะอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีรูปแบบโอเปอเรเตอร์ตามตารางดังนี้
โอเปอเรเตอร์
|
ทำหน้าที่
|
ตัวอย่าง
|
+
|
การบวก | [เงินเดือน] + [โบนัส] |
-
|
การลบ | [รวมทั้งหมด] - [ภาษี] |
-
|
เปลี่ยนเป็นค่าตรงข้าม | - 12345 |
*
|
การคูณ | [เงินเดือน] * 5 |
/
|
การหาร (ได้ค่าทศนิยม) | [เงินเดือน] / 30 |
\
|
การหาร (ได้ค่าจำนวนเต็ม) | [จำนวน] \ 12 |
Mod
|
หาค่าเศษจากการหาร | [จำนวน] Mod 12 |
^
|
การยกกำลัง | [จำนวน] ^ 2 |
โอเปอเรเตอร์
|
ทำหน้าที่
|
ตัวอย่าง
|
ผลที่ได้
|
<
|
น้อยกว่า | 1234 < 1235 | True |
<=
|
น้อยกว่าหรือว่าเท่ากับ | 123 <= 100 | False |
=
|
เท่ากับ | 1 = 2 | False |
>=
|
มากกว่าหรือเท่ากับ | 1234 >= 123 | False |
>
|
มากกว่า | 1234 > 1000 | True |
<>
|
ไม่เท่ากับ | 123 <> 456 | True |
โอเปอเรเตอร์
|
ทำหน้าที่
|
ตัวอย่าง
|
ผลที่ได้
|
And | ให้ค่าจริงเมื่อเป็นจริงทั้ง 2 ค่า |
True And True True And False |
True False |
Or | ให้ค่าจริงเมื่อค่าใดค่าหนึ่งเป็นจริง |
True Or False False Or False |
True False |
Not | กลับเป็นค่าตรงข้าม |
Not True Not False |
False True |
Xor | ให้ค่าจริงเมื่อมีค่าจริงเพียง 1 ค่า |
True XOr False True XOr True |
True False |
Eqv | ให้ค่าจริงเมื่อเป็นจริงทั้งคู่ หรือเป็นเท็จทั้งคู่ |
True Eqv True False Eqv False True Eqv False |
True True False |
โอเปอเรเตอร์
|
ทำหน้าที่
|
ตัวอย่าง
|
Is | ใช้ร่วมกับ Null เพื่อพิจารณาว่าเป็น Null หรือ Not Null |
Is Null Is Not Null |
Like | ใช้ร่วมกับ Wildcard (ตาราง 27.6) เพื่อกำหนดการใช้ตัวอักษรที่เริ่มต้น | Like “A*” (ขึ้นต้นด้วย A) |
In | ใช้พิจารณาตัวอักษรว่าอยู่ในลิสต์หรือไม่ | In (“BANGKOK” , “PRA” , “PATHUM”) |
Between | ใช้พิจารณาตัวอักษรที่อยู่ในขอบเขตของค่า | Between 1 and 10 |
เมื่อคุณสร้างฐานข้อมูลหรือเปิดฐานข้อมูลที่มีอยู่เรียบร้อยแล้ว คุณก็จะเห็นส่วนประกอบวินโดว์ของ Microsoft Access ดังรูป
เพียงใดก็ได้ โดยกำหนดแต่ละคอลัมน์เป็นฟิลด์ และแต่ละแถวเป็นเรกคอร์ด ตารางจะเป็นลักษณะ ดังรูปองค์ประกอบฐานข้อมูลใน Access
ฐานข้อมูลใน Access มีองค์ประกอบ 6 ประเภทดังนี้
ตาราง (Table)
ตาราง (Table) คือส่วนที่ใช้เก็บข้อมูลดิบหรือข้อมูลทั้งหมดที่คุณใส่ลงไปซึ่งจะมีมาก
ตาราง แล้วนำมาแสดงในตารางคิวรี ซึ่งจะเป็นประโยชน์เพราะสามารถนำเฉพาะข้อมูลที่ต้องการมาใช้เท่านั้นที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่สนใจ รูปแสดงคิวรีเพื่อเลือกข้อมูลจากตารางเป็นดังรูปคิวรี (Query)
คิวรี (Query) เป็นการนำข้อมูลที่ได้จากการค้นหาตามเงื่อนไขที่กำหนดมาจากตารางหลาย
ฟอร์ม (Form)เป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการเรกคอร์ดในตารางหรือคิวรี โดยนำมาแสดงผลให้ดูสวยงามและใช้งานง่าย และคุณยังสามารถลบเรกคอร์ด , เพิ่มเรกคอร์ด รวมทั้งข้อมูลที่เป็นออปเจกต์ เช่น รูปภาพ เป็นต้น ลักษณะของฟอร์มจะเป็นดังรูปฟอร์ม (Form)
รายงาน (Report) เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่จัดการเรกคอร์ดซึ่งจะสรุปผลเป็นรายงานที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ลักษณะของรายงานจะเป็นดังรูปรายงาน (Report)
มาโคร (Macro) เป็นชุดของคำสั่งที่ทำงานเป็นขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้การทำงานถูกต้องและแม่นยำ รวมทั้งยังเพิ่มความเร็วในการทำงานอีกด้วย คำสั่งของมาโครอาจจะเป็นดังรูปมาโคร (Macro)
โมดูล (Module)
โมดูล (Module) เป็นส่วนที่ให้คุณเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Access Basic เพื่อออกแบบการทำงานตามที่คุณต้องการโดยใช้โมดูลคีย์ต่าง ๆ
ของตารางก็ใช้มุมมองดีไซน์ หรือถ้าคุณต้องการใส่ข้อมูลในตารางก็ใช้มุมมองดาต้าชีต คุณจึงอาจจะต้องการสวิตซ์ระหว่างมุมมองซึ่งทำได้ดังนี้แต่ละมุมมองจะมีประโยชน์ต่างกัน เช่น ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนโครงสร้างหรือคุณสมบัติ